Friday, November 7, 2008

นโยบายรัฐมนตรีฯศรีเมือง ฯและเลขา กพฐ.มอบให้ผอ.เขตฯที่อุดรธานี

นายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.)
กล่าวในการประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ ณ โรงแรมเจริญศรีแกรนด์ จ.อุดรธานีว่า ขอฝากให้ ผอ.สพท.ช่วยผลักดัน งานการศึกษาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 และนโยบายการศึกษา 7 ด้านของรัฐบาล รวมทั้งติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาด้วย ส่วนเรื่องการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด หรือ เออร์ลี่รีไทร์ ซึ่งทราบว่าบางโรงเรียนมีครูเออร์ลี่ฯ กันมากจนส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนอย่างมาก ก็ขอให้สพท.ติดตามช่วยเหลือและรีบบรรจุครูทดแทนให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนครูด้วยโดยเฉพาะในโรงเรียนที่ห่างไกล นอกจากนี้อยากให้ดูแลการรับนักเรียนให้เรียบร้อย ไม่ให้มีเรื่องการฝากเด็ก การเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ เพราะการรับนักเรียนต้องทำด้วยความโปร่งใส

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)
กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการเน้นให้ ผอ.สพท.ทั่วประเทศดูแลเป็นพิเศษ คือ เรื่องการประเมินภายนอกของสถานศึกษา ที่แต่ละเขตพื้นที่จะต้องดูแลไม่ให้มีโรงเรียนอยู่ในเกณฑ์ปรับปรุงเป็นจำนวนมากอีก และต้องลงไปช่วยพัฒนาโรงเรียนที่อยู่ในเกณฑ์พอใช้ให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น รวมถึงต้องเน้นย้ำให้โรงเรียนนำผลการวัดประเมินระดับชาติ (เอ็นที) ผลประเมินของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด เพื่อลดจำนวนเด็กที่เรียนอ่อนและเพิ่มจำนวนเด็กที่เรียนเก่งให้มากขึ้น นอกจากนี้ขอให้เน้นย้ำเรื่องระบบการดูแลนักเรียน โดยให้โรงเรียนให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในเรื่องปัญหาเด็กติดเกม เพศศึกษา ให้มากขึ้นด้วย “สำหรับการประเมินวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษานั้น ถึงแม้ สพฐ.อยากให้ครูได้รับกันทุกคน แต่การจะได้รับวิทยฐานะก็ควรเกิดจากการทำงานที่แท้จริง ซึ่งจากการประชุมอ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาหลักเกณฑ์ให้มีและเลื่อนวิทยฐานะ เมื่อเร็ว ๆ นี้ สพฐ.ได้เสนอข้อมูลและตั้งข้อสังเกตไปว่า การประเมินวิทยฐานะที่ผ่านมา มีครูที่ดีและเก่ง ๆ จำนวนมากไม่ผ่านการประเมิน เพราะเขียนผลงานวิชาการไม่ดี สพฐ.เห็นว่า ควรต้องมีกระบวนการดูแลช่วยเหลือครูกลุ่มนี้ ส่วนกรณีที่ผลงานวิชาการไม่ชัดเจนก็น่าจะมีการอบรมแบบเข้มเพื่อช่วยเหลือด้วย” เลขาธิการกพฐ. กล่าวและว่า นอกจากนี้ขอให้ ผอ.สพท.ได้ไปศึกษานโยบายของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา เพื่อนำไปปรับใช้ด้วย เนื่องจากมีนโยบายด้านการศึกษาที่น่าสนใจ.

No comments: